10 เทคนิคการจัดวางองค์ประกอบของการถ่ายรูปบนไอโฟนเพื่อภาพถ่ายอันน่าตื่นตาตื่นใจ

https://iphonephotographyschool.com/iphone-photo-composition/

การพัฒนาเทคนิคการจัดวางองค์ประกอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้คุณเป็นนักถ่ายภาพที่ดีขึ้น เชื่อหรือไม่ว่าการจัดวางองค์ประกอบนั้นสำคัญมากกว่า subject ที่คุณถ่ายด้วยซ้ำไป เพราะเมื่อคุณจัดวางสิ่งต่างๆได้ดีนั้น คุณสามารถเปลี่ยน subject ที่ดูธรรมดาๆ ให้กลับสวยงามและมีความน่าสนใจขึ้นมาได้ในทันที โดยในบทเรียนนี้เราจะมาพูดถึง 10 เทคนิคการจัดวางองค์ประกอบเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพบนไอโฟนได้อย่างมั่นใจและดียิ่งขึ้นไปอีก

1. ใส่ subject หลักเข้าไป

หนึ่งในกฎที่สำคัญของการจัดวาง​องค์​ประกอบ​คือคุณ​ต้องมี​ subject หลักในรูป​ (เว้นแต่ว่าคุณจะถ่ายภาพ​แบบ​ abstract)​ เพื่อให้คนดูรู้และเข้าใจว่าคุณต้องการสื่อถึงอะไรจากในรูปถ่าย​ พูดอีกนัยหนึ่ง​คือ​ มันจะเป็นตัวที่นำความกระจ่าง​แจ้ง​มาให้รูปของคุณและสร้างจุดสนใจที่นำสายตา​ของคนดูมาตกที่รูปถ่าย​ของ​คุณ​

คุณจะเห็นได้จาก​ 2 รูปด้านล่าง​ที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่​ รูปที่มีเรือ canoe เป็น​ subject หลักสร้างพลังและความน่าสนใจขึ้นมาทันทีเพื่อเทียบกับอีกรูปที่ไม่มี​ main subject เลย

อีกตัวอย่าง​ที่ดีคือ​ ตอนที่คุณไปสถานที่สวยงามเช่นตามภูเขาหรือทะเล​ และคุณต้องการเก็บภาพของสถานที่นั้นๆไว้​ ถ้าคุณแค่ถ่ายสถานที่​ มันคงจะทำให้คุณรู้สึก​ผิดหวัง​ในยามที่คุณหยิบมันขึ้นมาดูทีหลังเพราะความรู้สึกที่คุณได้รับจะไม่เหมือนกับตอนที่คุณอยู่ที่นั่น​

แต่ว่าถ้าคุณ​ใส่​ subject หลักเข้าไป​ เช่น​ คนยืนดูภูเขาหรือทะเล​ รูปที่ถ่ายออกมาจะไม่เพียงสวยงาม​กว่าเดิม​ แต่ยังสามารถ​สื่อถึงอารมณ์​ความรู้สึก​ที่คุณมีเมื่ออยู่ในสถานที่นั้นๆ​ ในยามที่คุณกลับมาดูในภายหลัง​

2. ตั้งกรอบการถ่ายภาพเพื่อเพิ่มความสำคัญให้กับ subject ของคุณ

หลังจากที่คุณเลือก​ subject​ หลักที่จะมาอยู่ในรูปถ่าย​แล้ว​ คุณ​สามารถ​ใช้ทริคต่างๆเพื่อทำให้​ subject นั้นดูมีความหมายและความสำคัญ​มากขึ้น​ ซึ่งหนึ่งในวิธี​ที่ดีที่สุดคือ​ ทำการ​ frame หรือ​ตั้งกรอบให้กับ​ subject ของคุณ

การ​ framing ก็คือการใช้บางสิ่งบางอย่าง​ในสภาพแวดล้อม​ใกล้เคียง​เพื่อทำให้ subject​ ดูเป็นรูปเป็นร่าง​และดึงดูด​คนดูมาที่ภาพมากขึ้น​

โดยส่วนมากสิ่งที่เราใช้ในการ​ framing คือ​ บางสิ่งในพื้นหน้า​ที่ไปช่วยทำให้กรอบของรูปนั้นดูอ่อนนุ่มและเรียบง่ายเช่น​ กิ่งไม้​ ใบไม้​ หรืออาจจะเป็นพื้นที่ไม่ว่าจะสว่างหรือมืดที่รายล้อม​ subject​ ของคุณไว้​ เช่นรูปของผู้คนยืนอยู่ในโรงจอดรถ

นอกเหนือจาก​ที่​กล่าวมา​ หน้าต่าง​หรือทางประตูยังเป็นอะไรที่ดีในการนำมาให้​ frame เป็นกรอบให้กับ​ subject ไม่ว่าจะวางไว้ข้างหน้าหรือหลัง​ subject​

และเมื่อคุณเริ่มหาอะไรเพื่อมา​ frame subject ของ​คุณ​ คุณจะพบว่าคุณ​สามารถ​ใช้หลายสิ่ง​หลายอย่าง​มาเพื่อทำให้เป็นกรอบของรูปของคุณ​ ขอเพียงแค่คุณมีความคิดริเริ่ม​สร้าง​สรร​ค์

3. ใช้ leading lines หรือเส้นนำ เพื่อนำสายตาของคนดูมาสู่รูปของคุณ

อีกทริคหนึ่งที่คุณสามารถ​นำมาใช้ในการจัดวางองค์​ประกอบคือการมองหา​ leading lines หรือเส้นนำ​ ซึ่งเป็นตัวที่จะนำความสนใจของคนดูมาสู่​ subject​ หรือสิ่งที่คุณอยากให้เขา​ focus บนรูปถ่าย​ของ​คุณ​

ให้คุณมองหาอะไรที่มีลักษณะ​เป็นเส้นยาวๆในฉากการถ่ายภาพ​ เช่น​ ถนน​ ทางเดิน​ รั้ว​ ทางรถไฟ​ ทางเดินยาวในอาคาร​ หรือองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม​อะไรก็ตามที่สามารถสร้างเส้นนำได้

จากนั้นให้คุณทำการถ่ายภาพ​โดย​ให้เส้นนำลากสายตาจากพื้นหน้าไปตามระยะทางในรูปถ่าย​ โดยให้​ subject อยู่ที่ปลายทาง​หรือระหว่างทาง​ เพื่อให้เส้นนำลากสายตาคนดูไปสู่​ subject​ ได้ โดยตรง

เชื่อหรือไม่​ว่า​ leading lines ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้น​ เช่นในภาพของสะพานที่มีลักษณะ​เป็นเส้นนำในตัว​ แต่เงาของคนที่เดินบนสะพานก็สามารถทำหน้าที่​เป็น​เส้น​นำในการจัดวางองค์​ประกอบ​ได้เช่นกัน

นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลอันยอดเยี่ยมว่าทำไมคุณถึงควรถ่ายภาพ​ในช่วง​ Golden hour (ช่วงที่พระอาทิตย์​ขึ้น​หรือตก) เพราะว่าคุณไม่เพียงจะได้แสงที่สวยงาม​ แต่คุณจะได้ประโยชน์​จาก​ leading lines ในการสร้างเงาที่ทอดยาวเป็นทางให้กับคุณ

4. ใช้กฎสามส่วน

คุณ​อาจเคยได้ยินถึงกฎสามส่วนมาก่อนเพราะนี่เป็นหนึ่งในสิ่งแรกๆที่คุณได้เรียนรู้เมื่อเริ่มต้น​ถ่ายภาพ​ และในความเป็นจริง​คุณจะพบว่ามันมีประโยชน์​ถึงขนาด​ที่ไอโฟนของคุณมีฟังก์ชั่น​การใช้งานเพื่อกฎสามส่วนโดยเฉพาะ​

ถ้าคุณไปที่​ Setting และเลือก​ Photos &​ Camera จากนั้นเลื่อนลงและเปิดการใช้การ​ grid คุณก็จะได้​เส้นตรง​ในแนวตั้งและแนวนอนอย่างละ 2 เส้น​เพื่อแบ่งรูปคุณเป็น​ 9​ ส่วนเท่าๆกัน​ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎสามส่วน

กฎสามส่วนระบุไว้ว่า​ เมื่อคุณ​แบ่งหน้าจอการถ่ายภาพ​ให้เป็น​ 3 ส่วนเท่าๆกัน​ ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง​ ให้คุณวาง​ subject​ ไว้ที่​ 1 ใน​ 4 จุดที่เส้นทั้ง​ 4 นั้นตัดกัน​ ตัวอย่างเช่นในรูปภาพที่มีบ้านเล็กๆ​ คุณ​จะเห็นว่าบ้านนั้นตั้งอยู่บนจุดด้านขวามุมบนที่เส้นตัดกัน

กฎสามส่วนยังบอกอีกว่า​ ให้คุณ​วางเส้นขอบฟ้า​ไว้ที่เส้นตรงแนวนอน​ด้านบน​หรือด้านล่างเพื่อการจัดวางองค์​ประกอบ​ที่มีสมดุลและสวยงามที่สุด

กฎสามส่วนเป็นกฎที่น่าเชื่อ​ถือ​และทำให้รูปเกิดสมดุลที่ลงตัว​ อย่างไรก็ตาม​กฎนี้ก็มีความยืดหยุ่น​ เช่นในรูปทิวทัศน์​ที่มีคนยืนดูแหล่งน้ำ

คุณจะเห็นว่าคนที่เป็น​ subject หลักยืนอยู่ตรงจุดที่เส้นตัดกันก็จริง​ แต่เส้นขอบฟ้า​ไม่ได้อยู่บนเส้นตรงในแนวนอนทั้งด้านบนและด้านล่าง​ แม้กระนั้น​ กลุ่มก้อนที่เป็นมวลทึบๆทางด้านล่างก็วางตัวในแนวขนานไปกับเส้น​ grid ด้านล่าง​ ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำกฎสามส่วนไปประยุกต์ใช้​เพื่อพัฒนา​การจัดองค์ประกอบ​รูป

ให้คุณมองสิ่งต่างๆในโลกผ่าน​ไอโฟนโดยเปิดระบบการใช้งาน​ grid ให้เส้นตรงทั้ง​ 4 เชื่อมโยงเข้ากับ​ subject​ หลักของคุณโดยใช้กฎสามส่วนและคุณจะประหลาดใจว่าการสร้างภาพถ่ายที่ดีนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิดไว้เลย

5. ลืมกฎสามส่วนไปซะ

ในข้อที่ 4 คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎสามส่วนไปแล้ว ตอนนี้เราอยากลองให้คุณลองแหกกฎนี้ดู

โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องถ่ายภาพที่มีสมมาตร คุณจะเห็นว่าถ้าคุณวาง subject หลักไว้ที่ตรงกลาง รูปที่คุณได้จะออกมาดูดีกว่าเดิม

รูปถ่ายที่มีสมมาตรนั้นเป็นอะไรที่พิเศษ เพราะคุณต้องรักษาสมดุลของทั้งสองด้านให้ดี ซึ่งทำได้โดยวาง subject ให้อยู่ที่จุดศูนย์กลางของรูปภาพเพื่อไม่ให้ด้านใดด้านหนึ่งดูโดดเด่นกว่าอีกด้าน

เช่นเดียวกัน รูปถ่ายที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก็เป็นอะไรที่ยึดตามหลักสมมาตร ที่ทำให้คุณต้องฉีกตัวเองออกจากกฎสามส่วนไป เพราะว่า ด้านทั้ง 4 ด้านของรูปมีความยาวเท่ากันซึ่งจะเข้ากับการแบ่งแบบสมมาตรได้อย่างลงตัวที่สุด

ดังนั้นแม้ว่าการทำตามกฎการจัดวางองค์ประกอบจะเป็นอะไรที่ดีงาม บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่โอเคถ้าคุณจะฉีกตัวเองออกมาเมื่อคุณมีเหตุผลที่น่าดึงดูดใจที่จะทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

6. ใช้สมมาตรและรูปแบบให้เกิดประโยชน์

การถ่ายภาพ​ที่มีสมมาตรและรูปแบบเป็นวิธี​ที่ยอดเยี่ยม​ในการนำความสนใจทางสายตาเข้ามาสู่การถ่ายภาพ​ของ​คุณ​ เพราะว่าสมองของคนเรานั้นจะถูกดึงดูด​ให้เข้าหาอะไรที่เป็นสมมาตรกัน​ เราจะเห็นได้จากร่างกายของเราที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีสมมาตรแบ่งเป็นด้านซ้ายและด้านขวาอย่างเท่าเทียมกัน​

สมมาตรนั้นสามารถสร้างความน่าประทับใจ​ให้กับรูปถ่าย​ที่สามารถจับสายตาคนดูได้ในทันที​ เช่น​ ส่วนหน้าของตึกที่แสดงสถาปัตยกรรม​ นับว่าเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม​ในการมองหาสมมาตร​ เพราะมันถูกออกแบบมาให้มีรูปแบบความเป็นสมมาตรในตัวเอง

รูปแบบนั้นเป็นอะไรที่สัมพันธ์​กับความเป็นสมมาตร​ แต่เราไม่ควรเกิดความสับสนระหว่าง​ 2 สิ่งนี้​ เช่นในรูป​ตัวอย่าง​ คุณจะเห็นว่าการจัดวางองค์​ประกอบ​นั้นเป็นแบบสมมาตรเพราะด้านซ้ายและด้านขวาดูออกแบบมาให้เหมือนกัน​ แต่คุณ​ก็​จะ​เห็นได้เช่นกันว่ามีรูปแบบการจัดวางหนังสือ​ 3 เล่ม​ ในทุกๆแถว​ทั่วทั้งรูปถ่าย

เมื่อคุณ​ใช้สมมาตรร่วมกับรูปแบบ​ คุณ​ก็​จะ​สามารถ​สร้าง​ภาพถ่ายที่มีมนต์สะกดทางสายตาให้กับคนดูได้​ ซึ่งในธรรมชาติ​คุณสามารถ​หาความเป็นสมมาตรได้โดยมองหาแหล่งน้ำและให้มือถือของคุณอยู่ในระดับต่ำเพื่อให้น้ำนั้นสะท้อนรายละเอียด​ส่วนบนของภาพ

สำหรับการถ่ายภาพ​ในเมือง​ คุณ​จะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ง่ายในการหาตึกหรืออาคารที่สมมาตรในการจับภาพ​ หรือว่าคุณ​อาจสร้างการถ่ายภาพ​ที่มีสมมาตรเองโดยการกดไปที่ขอบของไอโฟนผ่านเศษแก้ว​เพื่อให้คุณ​สามารถจับรายละเอียด​ของ​ subject หลักที่ถูกสะท้อนในพื้นผิวที่เป็นมันเงาทำให้เราสร้างการถ่ายภาพที่มีสมมาตรได้ในทันที​ และคุณจะประหลาด​ใจว่าสมมาตรกับรูปแบบทำให้คุณได้มองเห็นการถ่ายภาพ​ในมิติที่แตกต่างกันออกไป

7. ถ่ายจากมุมที่แตกต่างออกไป

เรามักจะเคยชินกับการมองโลกรอบๆตัวจากระดับสายตา​ ดังนั้นจะเป็นการสร้างความประหลาดใจ​ให้กับคนดูถ้าคุณ​ได้ลองถ่ายภาพในองศาที่แตกต่างกันออกไป

เพียงแค่เคลื่อนย้ายมือถือของคุณไปยังจุดที่พิเศษหรือมีอะไรโดดเด่น​จะทำให้รูปถ่ายของคุณนั้นดูสดใหม่อย่างที่คนดูไม่คาดคิดมาก่อน

และเทคนิคนั้นก็คือการมองขึ้นไปข้างบนเหนือตัวคุณ​ เพราะว่ามีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เหนือคุณทุกๆวัน​ หรือในทางกลับกัน​คุณอาจลองถ่ายภาพ​จากด้านบนเพื่อมองลงมาที่​ subject ของ​คุณ​ ซึ่งทำได้โดยขึ้นไปถ่ายในตึกสูงๆหรือบนสะพาน

ท้ายที่สุด​ คุณ​อาจลองมองหามุมที่คนไม่คาดคิดมาก่อน​โดยการวางมือถือของคุณในวิธีที่ไม่ปกติ

เช่น​ เมื่ออยู่บนเครื่องบิน​คุณจะเห็นภาพของโลกในรูปแบบที่เปลี่ยนไปเมื่อมันถูกสะท้อนโดยพื้นผิวอันวาววับของเครื่องบิน​ และคุณอาจเอียงมือถือเพื่อเปลี่ยนมุมมองในการถ่ายภาพที่ทำให้ผู้คนต้องประหลาดใจ

ดังนั้นทุกครั้งที่คุณถ่ายภาพ​ด้วยไอโฟน​ อย่าเพียงแค่จับภาพจากระดับสายตาหรือระดับความสูงของคุณ​ แต่ให้มองหาสถานที่ที่คุณสามารถมองโลกจากมุมที่คุณไม่อาจเห็นได้ในยามปกติ

8. ใส่ส่วนประกอบที่เป็นพื้นหน้าและพื้นหลังเพื่อเพิ่มความรู้สึกในเชิงลึก

รูปถ่ายนั้นเป็นการนำเสนอภาพสามมิติในรูปแบบที่เป็นสองมิติ​ ซึ่งหมายความว่า​ มันเป็นเรื่องที่ยาก​ในการสื่อถึงความรู้สึกเชิงความลึกที่คุณเห็นด้วยตาของคุณเอง​ และการที่คุณจะทำให้คนดูมีประสบการณ์​ร่วมไปกับรูปถ่ายของคุณ​ คุณก็ต้องประกอบชอตการถ่ายภาพด้วยความรอบคอบเพื่อเพิ่มความรู้สึกเชิงลึกและดูเป็นสามมิติมากยิ่งขึ้น​

การสร้างภาพถ่ายที่มีความลึกนั้นง่าย​ เพียงแค่คุณ​ต้องมีอะไรบางอย่าง​ในพื้นหน้าและพื้นหลังเท่านั้นเอง

ในรูปภาพตัวอย่างคุณจะสัมผัส​ถึงความรู้สึกเชิงความลึกได้​ เพราะมีน้ำเป็นพื้นหน้า​ และ​ ผืนหญ้ารวมถึงต้นไม้เป็นพื้นหลัง​ แต่เมื่อเราใส่อีกสิ่ง​หนึ่ง​เพิ่มเข้าไปในพื้นหน้า​ มันไม่เพียงแต่ทำให้รูปนั้นดูมีความลึกมากขึ้น​ แต่​ยังเป็นการเพิ่ม subject หลัก​ทำให้รูปที่ได้มีพลังมากขึ้นด้วย

รูปถ่าย​ที่มีความลึกเป็นอะไรที่น่าดึงดูด​สำหรับ​เราเพราะมันช่วยให้เราเข้าใจที่ที่เป็นสามมิติที่รูปได้แสดงออกมา​ ซึ่งคุณ​อาจเพิ่มความลึกโดยใส่ใจในรายละเอียด​เกี่ยวกับรูปแบบและเส้น​ ให้อยู่ในแนวเดียวกันไปตามระยะทาง​

ในครั้งต่อไปเมื่อคุณ​เริ่มถ่ายภาพ​ ให้ลองประกอบการถ่ายภาพของ​คุณ​ในลักษณะ​ที่มีบางสิ่งบางอย่าง​ทั้งในพื้นหน้าและพื้นหลัง​ และคุณ​จะพบว่ารูปที่ได้นั้นดูเป็นสามมิติมากเลยทีเดียว

9. ให้มีพื้นที่ว่างสำหรับ subject ที่กำลังเคลื่อนที่

ในบางครั้งที่ subject ของคุณกำลังเคลื่อนที่ขณะที่จับภาพ คุณจำเป็นต้องตระหนักถึงอีกกฎหนึ่งของการจัดวางองค์ประกอบนั่นคือการให้มีพื้นที่ว่างสำหรับ subject ที่เคลื่อนที่อยู่ โดยคุณควรเหลือพื้นที่ว่างให้อยู่ด้านหน้า subject มากกว่าด้านหลัง ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีพื้นที่เหลือในการเติมเต็ม

นับว่าเป็นเรื่องสำคัญในการให้มีพื้นที่ว่างเพื่อทำให้คนไม่รู้สึกว่าในกรอบการถ่ายภาพนั้นดูแออัดเกินไป เพราะแน่นอนว่าคุณไม่อยากให้มันเหมือนเป็นการวิ่งเข้าหาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความสับสน ซึ่งเป็นภาพถ่ายอีกรูปแบบหนึ่งที่เราไม่ได้กล่าวถึง

คุณจะพบว่าถ้าคุณตั้งกรอบการถ่ายภาพ subject ในแบบนี้ รูปถ่ายที่ได้จะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสมจริงมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะเราคุ้นเคยกับการดูรูปภาพในแบบนี้ และถ้าคุณฝึกฝนการถ่ายภาพที่มี subject เคลื่อนไหวโดยใช้กฎนี้ มันก็จะทำให้ทุกอย่างออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

10. แยก subject ของคุณออกมา

หนึ่งในวิธี​ที่ดีที่สุดในการปรับปรุง​รูปถ่ายบนไอโฟน​ของคุณคือการมั่นใจว่า​ subject​ ของ​คุณ​ถูกดึงออกมาจากพื้นหลัง​ และ​ ไม่มีสิ่งกีดขวาง​อะไรที่จะมาคาบเกี่ยว​กับ​ subject​ หลักของคุณ​ เพราะการที่มีอะไรอย่างอื่นเข้ามารบกวนจะทำให้ภาพของคุณดูอ่อนแอลงและทำให้เกิดความสับสนต่อคนดูได้

วิธีที่ดีในการดึงเอา​ subject​ ของคุณออกมาคือการดูว่าพื้นหลังนั้นสว่างพอหรือไม่​ (สมมุติ​ว่า​ subject​ ของ​คุณ​นั้น​มืด)​ เช่นในรูปตัวอย่างที่เราถ่ายภาพคนในชุดดำกำลังเดินผ่านทางเชื่อมที่มีแสงสว่างจ้า

แน่นอนว่าคุณ​สามารถทำในแบบตรงข้ามได้เช่นกัน​ นั่นคือการใช้พื้นหลังที่มืด​ กับ​ subject​ ที่มีความสว่างไสว​ เพื่อดึงเอาความน่าสนใจของ​ subject ออกมา​

นอกจากใช้ความมืดและความสว่างแล้ว​ คุณ​อาจใช้สีในการทำให้​ subject​ หลักของคุณดูโดดเด่นออกมา​ เพราะตาของเรามักจะให้ความ สนใจไปที่ส่วนที่มีสีสันมากที่สุดของภาพ​ ดังนั้นถ้าคุณ​ทำให้พื้นหลังของคุณมีสีสันน้อยที่สุด​ สีที่สว่างบน​ subject​ หลักจะช่วยดึงความสนใจจากคนดูมา​ เช่น​ หมวกสีแดงที่ผู้ชายในรูปตัวอย่าง​สวมใส่นั่นเอง​

ในทางกลับกัน​คุณ​สามารถ​ทำให้พื้นหลังดูมีสีสัน​ และ​ ลดสีสันใน​ subject​ ของ​คุณ​ให้ดูอึมครึม​แทน​ นี่เป็นกลยุทธ์​ที่ดีถ้าพื้นหลังของคุณเป็นกำแพงที่มีสีสัน​ หรือ​ คุณ​กำลังถ่ายรูป​ในยามพลบค่ำ​

ในรูปตัวอย่าง​ คุณ​จะเห็​น​ว่า​ subject​ หลักนั้นดูเด่นออกมาเพราะตัวเขามืดส่วนพื้นหลังนั้นสว่าง​ และเพราะเขาอยู่ในสภาพแวดล้อม​ที่มีสีสัน​ แต่ตัวเขาเองนั้นไม่มีสีสันอะไร

ในบางครั้งคุณ​อาจพบว่าในรูปถ่าย​ มีกิ่งไม้​ หรือ​ ต้นไม้​ที่ดูเป็นการรบกวนความสวยงามของภาพ​ และไม่มีวิธีในการเอาสิ่งพวกนี้ออกไปจากกรอบการถ่ายภาพ​ ดังเช่นในรูปตัวอย่างที่​กิ่งไม้มืดๆข้างหลัง​ subject​ ไปรบกวนและแทรกแซง​กับโครงร่างภาพของคน

ในกรณีนี้​ หลังจากที่จับภาพแล้วให้คุณ​ใช้แอพพลิเคชั่น​ TouchRetouch เพื่อเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปจากรูปภาพ​ เช่นในรูปตัวอย่างอีกรูปที่คุณจะเห็นว่ากิ่งก้านสาขาของต้นไม้นั้นถูกเอาออกไป​ ทำให้คนที่เป็น​ subject นั้นดูมีโครงร่าง​ที่ชัดเจนและสบายตามากขึ้นในการจัดวางองค์​ประกอบ​

Scroll to Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า