- Home >
- เทคนิคพื้นฐาน >
- พื้นฐานการตั้งค่ากล้องถ่ายวีดีโอสำหรับมือใหม่ รวมทุกสิ่งที่ต้องรู้เบื้องต้น
12 เทคนิคการถ่ายภาพที่นักถ่ายภาพ ทุกคนควรรู้
(ตอนที่ 1)
https://iphonephotographyschool.com/mobile-photography-tips/
คุณต้องการถ่ายภาพที่ทำให้คนต้องตะลึงหรือไม่ก็ยิงถาพบมือถือที่อาจจะดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครถ่ายภาพในแบบที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเพียงแค่ทำตามเทคนิค 12 อย่างเรา จะพูดถึงภาพของคุณจะดูดีขึ้นมาอย่างแน่นอ

1. หมั่นเช็ดทำความสะอาดเลนส์เพื่อภาพที่สดใสอยู่เสมอ
เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของคุณมักจะอยู่ในมือ ในกระเป๋า หรือในกระเป๋ากางเกงเป็นส่วนใหญ่ เลนส์ของกล้องเลยมักจะถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรก ฝุ่น รอยนิ้วมือต่างๆ
เลนส์ที่สกปรกจะทำให้เกิดคราบหรือความมัวหมองต่อรูปถ่ายของคุณ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย
ดังนั้นคุณจึงควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดเลนส์เพื่อภาพที่สวยและคมชัดโดยให้คุณใช้ผ้าบางๆ หรือเสื้อยืดเพื่อเช็ดเลนส์
ถ้าคุณอยู่ในสภาวะที่มีฝุ่นเยอะ หรือ ตามชายหาดก็ให้คุณเป่าเลนส์เพื่อให้ทรายหรือฝุ่นนั้นออกไปก่อน
การทำความสะอาดเลนส์นั้นอาจดูเป็นอะไรที่ชัดเจนที่ทุกคนพึงรู้ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีหลายคนลืมสิ่งนี้ไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นให้คุณเคยชินกับการหมั่นทำความสะอาดเลนส์เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับความกระจ่างใสของรูป




2. ตั้งโฟกัสเพื่อความคมชัดของ subject ในรูปถ่ายของคุณ
ถึงแม้ว่าเลนส์ของคุณจะสะอาดแล้ว บางครั้ง subject ของคุณอาจดูไม่คมชัดเสมอไป นั่นเป็นเพราะการโฟกัสโดยอัตโนมัติของกล้องไม่ได้โฟกัสไปที่ที่คุณต้องการ คุณจึงควรปรับจุดโฟกัสด้วยมือคุณเอง เพื่อให้ subject นั้นมีความคมชัดตามที่ต้องการ
การปรับหรือตั้งค่าโฟกัสบนกล้องนั้นง่ายดายเพียงแค่ตอนที่คุณเปิดการใช้งานกล้องนั้น ให้คุณแตะไปบนหน้าจอในบริเวณที่คุณต้องการตั้งโฟกัส (ซึ่งก็มักจะเป็นที่ subject หลักของคุณ) และจะมีกล่องสีเหลืองปรากฏขึ้น
จากนั้นให้คุณกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อจับภาพ โดยคุณจะเห็นว่าบริเวณที่คุณตั้งโฟกัส (ที่มีกล่องสีเหลืองนั้น) จะดูคมชัดมากกว่าบริเวณรอบข้าง
การตั้งโฟกัสเป็นหนึ่งในทริคการถ่ายภาพบนโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดที่คุณควรเรียนรู้เพราะนอกจากมันจะเป็นอะไรที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน มันยังช่วยทำให้รูปของคุณมีความคมชัดที่ทำให้คนดูต้องตะลึงได้มากทีเดียว




3. ปรับเปลี่ยนการรับแสงเพื่อความสว่างที่เหมาะสมของรูป
คุณรู้หรือไม่ว่าส่วนใหญ่แล้วรูปที่คุณถ่ายออกมามักจะดูสว่างหรือมืดเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ดังนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อมั่นใจว่ารูปที่เราถ่ายมีความสว่างที่เหมาะสม
การแก้ไขนั้นง่ายดาย เพียงแค่คุณปรับความสว่างก่อนที่จะกดปุ่มถ่ายภาพ โดยการสัมผัสไปที่หน้าจอ เมื่อเห็นกล่องสีเหลืองพร้อมเส้นตรงที่อยู่ข้างๆก็ให้คุณเลื่อนขึ้นลงตามเส้นนั้นเพื่อปรับความสว่างตามที่คุณต้องการ โดยการเลื่อนลงจะทำให้รูปดูมืดลง ส่วนการเลื่อนขึ้นจะทำให้รูปดูสว่างขึ้น
ที่สำคัญคือให้คุณมั่นใจว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดในรูปนั้นได้รับแสงสว่างในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะมีผลทำให้สีและรายละเอียดต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าในบางครั้งคุณอาจตั้งใจให้รูปของคุณดูมืดหรือสว่างเกินไป เช่น คุณอาจลดการรับแสงเพื่อที่จะสร้างภาพถ่าย Silhouette (โครงร่างสีดำ) เพื่อให้ subject ดูมืดมน หรือคุณอาจเพิ่มแสงให้กับรูปถ่ายที่ต้องการความสว่างในการสร้างจุดที่น่าสนใจ
คุณจะเห็นได้ว่า การปรับค่าแสงบนไอโฟนมีผลที่น่าอัศจรรย์ต่อความสว่างบนรูปของคุณ อย่างไรก็ตามถ้าคุณต้องการถ่ายภาพฉากที่มีความแตกต่างอย่างมากเพื่อการเปรียบเทียบ มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงการรับแสงที่ดีได้
แต่โชคดีที่กล้องบนไอโฟนของคุณมีทางแก้ปัญหาในการจับภาพด้วยปริมาณแสงที่เหมาะสมสำหรับฉากที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด






4. ใช้ HDR เพื่อการกระจายแสงอย่างเท่าเทียมกันและเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนอย่างน่าอัศจรรย์
การถ่ายภาพที่มี high contrast อาจเป็นปัญหาเวลาหาปริมาณแสงที่เหมาะสม เพราะภาพแบบนี้จะมีฉากที่ประกอบด้วยทั้งส่วนที่มืดและสว่าง เช่น ทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้าสว่างและพื้นหน้าด้านล่างที่มืดในรูปเดียวกัน
นั่นเพราะเมื่อคุณถ่ายภาพ มันเป็นเรื่องยากของกล้องในการจับภาพทั้งส่วนที่มืดและสว่างไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา 2 อย่างนั่นคือ ส่วนที่มืดจะดูมืดไป หรือ ส่วนที่สว่างจะดูสว่างจ้ามากเกินไป ทำให้เสียสมดุลของความสว่างไป
โชคดีที่กล้องบนไอโฟนนั้นมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยให้รูปถ่ายนั้นได้รับแสงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเราเรียกมันว่า HDR (High Dynamic Range) ที่จะมาช่วยให้คุณจับภาพที่มีทั้งส่วนสว่างและมืดในฉากเดียวกัน
การถ่ายภาพ HDR ด้วยไอโฟนของคุณก็ทำได้ เพียงแค่เช็คดูว่า HDR ถูกตั้งค่าอย่างเหมาะสมโดยการให้คุณไปที่ Setting บน Home screen และเลือก Camera
ให้คุณดูว่าปุ่ม Smart HDR นั่นปิดอยู่ เพราะถ้ามันเปิดการทำงานอยู่ HDR จะไม่ปรากฏบนหน้าจอการใช้งานของกล้อง และให้ดูว่าปุ่ม Normal Photo นั้นเปิดอยู่เพื่อให้ไอโฟนของคุณเก็บภาพที่ไม่ได้เป็น HDR ไว้ด้วย
จากนั้นให้ออกจาก Settings และเปิดการใช้งานกล้อง และดูว่าไอคอน HDR นั้นปรากฏอยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งเมื่อมี HDR คุณก็จะสามารถเก็บภาพที่มีแสงส่องสว่างอย่างทั่วถึงในฉากการถ่ายภาพของคุณ






5. ถ่ายภาพในโหมด portrait เพื่อให้ได้รูปที่ดูเป็นมืออาชีพและมีพื้นหลังดูเบลอๆราวกับอยู่ในความฝัน
คุณอาจคิดว่านี่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับการถ่ายภาพบนไอโฟน เพราะปกติแล้วคุณต้องใช้กล้องแบบ DSLR ในการเบลอพื้นหลังบนรูปของคุณ แต่ถ้ากล้องบนไอโฟนคุณมีโหมด portrait และก็ สิ่งนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายเลยล่ะ
โดยโหมด portrait นั้นจะมีอยู่ในแอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูปบนไอโฟนรุ่นต่างๆดังนี้
XS
XS Max
XR
X
8 plus
7 plus
และ Portrait mode นี่เองจะเป็นตัวที่ใช้ software สร้างผลลัพธ์เชิงลึกที่ทำให้ subject บนพื้นหน้าดูคมชัดและทำให้พื้นหลังดูเบลอๆไป
ส่วนการใช้งานนั้นก็ง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม portrait ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอเมื่อคุณเปิดการใช้งานกล้องถ่ายรูปบนไอโฟน โดยให้คุณจัดวาง subject ให้อยู่ระหว่าง 2-8 ฟุตจากกล้อง เพราะระบบ depth effect ของ Portrait mode จะไม่ทำงานถ้า subject ของคุณอยู่ใกล้หรือไกลเกินไป จากนั้นเมื่อคุณเห็นตัวอักษรสีเหลืองขึ้นมาว่า natural light นั่นแปลว่าระบบพร้อมที่จะถ่ายภาพแล้ว โดยให้คุณกดปุ่ม shutter เพื่อจับภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีพื้นหลังดูเบลอๆอันสวยงาม
แต่ในบางครั้งคุณอาจไม่ชอบให้เกิดการเบลอในรูปถ่าย นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย คุณสามารถกำจัดความเบลอและปรับภาพให้สู่ภาวะปกติได้โดยเปิดรูปที่คุณถ่ายไว้ในแอปรูปถ่ายและกดปุ่ม Edit หลังจากนั้นให้กดปุ่มตัวอักษร Portrait สีเหลืองที่ด้านบนของหน้าจอเพื่อกำจัดความเบลอของพื้นหลังออกไป
ถ้าหากว่าไอโฟนของคุณเป็นรุ่น XS / XS Max / XR และก็ portrait mode ของคุณก็จะมีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า depth-control หรือการควบคุมเชิงความลึก ซึ่งจะเป็นตัวปรับระดับความเบลอของพื้นหลังเมื่อคุณถ่ายภาพเสร็จแล้ว
คุณสามารถทำได้โดยเปิดรูปภาพในแอพที่เก็บรูป และกด edit ซึ่งคุณจะเห็นที่เลื่อนข้างล่างภาพ โดยการเลื่อนไปด้านซ้ายจะทำให้ความเบลอมีมากขึ้น และด้านขวาทำให้ความเบลอมีน้อยลงตามลำดับ เมื่อคุณทำเสร็จแล้วให้กดปุ่ม done เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงไว้









6. เปิดการใช้งาน Burst mode เพื่อชอตการถ่ายภาพอันน่าเหลือเชื่อ
บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าการจับภาพที่มี subject กำลังเคลื่อนไหวให้ได้ดีและคมชัดนั้นเป็นเรื่องยากใช่ไหม หรือ บางครั้งคุณพลาดชอตดีๆไปเพราะคุณไม่ได้กดปุ่มชัตเตอร์ในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
นี่เป็นปัญหาที่มักพบเจอในยามที่ต้องถ่ายรูปที่ subject มีการเคลื่อนไหวอยู่ แต่โชคดีที่ไอโฟนมีคุณสมบัติพิเศษของกล้องที่ช่วยให้คุณถ่ายรูปแอ็คชั่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งเราเรียกมันว่า Burst Mode ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อถ่ายภาพในลักษณะนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งการใช้งาน Burst mode นั้นทำได้โดยกดปุ่ม shutter แช่ทิ้งไว้ กล้องจะจับภาพด้วยความเร็วประมาณ 10 รูปต่อ 1 วินาที จนกว่าคุณจะปล่อยนิ้วมือออก ด้วยวิธีนี้คุณก็จะมั่นใจได้ว่าคุณจะมีอย่างน้อย 1 รูปที่ subject ของคุณอยู่ในตำแหน่งและท่าทางที่สมบูรณ์แบบ
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รูปมีมากเกินไปในอัลบั้ม คุณอาจเก็บรูปที่ดีที่สุดที่ได้จาก Burst mode และลบที่เหลือออก ซึ่งสามารถทำได้โดย
เปิดอัลบั้มรูปถ่าย หารูปที่คุณต้องการเก็บไว้และกดเปิดมันขึ้นมา จากนั้นกด select ที่ด้านล่างของหน้าจอและเลือกดูรูปที่คุณชอบ ตามด้วยกดปุ่ม done และเก็บรูปที่คุณเลือกไว้
Burst mode เป็นคุณสมบัติพิเศษบนกล้องที่ใช้งานได้ง่าย และเป็นตัวช่วยให้คุณได้รูปจากการถ่ายภาพแอคชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีคุณภาพดีขึ้น ดังนั้นอย่าลืมใช้มันเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเคลื่อนไหวหรืออะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ในฉาก
Burst mode ยังเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพเด็กและสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงถนนที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา หรือ การสาดน้ำก็ได้ ทำให้การถ่ายรูปบนมือถือของคุณได้รับการยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งได้อีกด้วย







